ซื้อบ้านใหม่ ติดรางน้ำฝนก่อนเข้าอยู่ดีไหม?

ถ้าบทความยาวไปเลือกอ่านเฉพาะหัวข้อที่สนใจก็ได้

• การติดตั้งรางน้ำฝนมีงานส่วนไหนเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง

• แล้วแบบนี้ควรจะติดตั้งรางน้ำฝนก่อน หรือหลังเข้าอยู่?

• ถ้าตัดสินใจว่าติดรางน้ำฝนแน่นนอน ควรติดรอบบ้านเลยหรือไม่?

• ควรเลือกรางน้ำฝนแบบไหน วัสดุอะไรดี?

เมื่อซื้อบ้านหลังใหม่ไม่ว่าจะเป็นบ้านที่ซื้อตรงจากโครงการ หรือบ้านมือสองที่ซื้อต่อจากเจ้าของเดิม หลายๆ คงคงมีแพลนว่าอยากปรับปรุง หรือต่อเติมส่วนต่างๆ ของบ้านให้เป็นอย่างที่เราต้องการ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือรางน้ำฝน แต่ว่าจะติดตั้งตอนไหนดี ตั้งแต่ยังไม่เข้าอยู่ หรือรออยู่ไปก่อนแล้วค่อยทำ

ขออธิบายให้พอเห็นภาพกันก่อนว่า รางน้ำฝนโดยปกติแล้วจะติดตั้งที่เชิงชายของหลังคา ใช้เพื่อรับน้ำฝนที่ไหลจากหลังคา เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนไหลลงจากหลังคามาสร้างความเสียหายแก่พื้นที่ด้านล่าง

การติดตั้งรางน้ำฝนมีงานส่วนไหนเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง

ส่วนประกอบในการติดรางน้ำฝนจะมี ตัวรางน้ำฝน อุปกรณ์ยึดรางน้ำฝน ท่อน้ำฝน และข้องอเพื่อปรับมุม และองศาของท่อน้ำฝนให้ลงมายังจุดที่ต้องการ

ข้องอจะใช้เพื่อปรับองศาของท่อระบายน้ำฝนให้สามารถเปลี่ยนทิศทางเข้าหาตัวบ้านเพื่อทำการยึดติดกับผนังด้วยอุปกรณ์ เช่น สายรัด หรือแคลมป์จับท่อน้ำฝนได้

เมื่อน้ำฝนจากหลังคาไหลลงมายังสุดปลายท่อน้ำฝนแล้ว หากไม่มีการเชื่อมต่อลงระบบระบายน้ำของบ้านแล้ว น้ำฝนก็จะถูกปล่อยลงพื้นด้านล่าง ซึ่งอาจจะเจิ่งนองสร้างปัญหาตามมาอีกเช่นกัน ได้แก่ เกิดคราบดำ เกิดตะไคร่น้ำ น้ำขังบนสนามหญ้าทำให้หญ้าและต้นไม้เล็กๆ ตาย ดังนั้นหากต้องการแก้ปัญหาได้เบ็ดเสร็จจริงๆ ก็ควรต่อน้ำฝนลงไปยังบ่อพักน้ำ เพื่อนำน้ำฝนไปสู่ระบบระบายน้ำด้วยการต่อท่อฝังดินให้เรียบร้อย

ดังนั้นจะเห็นว่าการติดตั้งรางน้ำฝนแล้ว นอกจากจะเกี่ยวข้องกับหลังคาแล้ว ยังมีงานที่เกี่ยวข้องกับพื้่นด้านล่างอีกด้วย

แล้วแบบนี้ควรจะติดตั้งรางน้ำฝนก่อน หรือหลังเข้าอยู่?

เรื่องนี้ต้องบอกว่าสามารถทำได้ทั้งสองแบบ แต่ควรติดรางน้ำฝนก่อนต่อเติม เช่น เทพื้นปูน และต่อเติม เพราะจะทำให้การทำงานจะมีความยืดหยุ่นมากกว่า ตัวอย่างเช่น ในบ้านเดี่ยวทั่วไปมักจะวางแนวบ่อพักน้ำเอาไว้เพียง 2 ฝั่ง คือด้านหลังบ้าน และฝั่งซ้าย หรือขวาอีก 1 ฝั่ง

บ้านหลังคาทรงจั่วโดยปกติแล้วจะติดรางน้ำฝนไว้ที่ปลายหลังคาทั้ง 2 ฝั่ง แต่เจ้าของบ้านสามารถเลือกติดรางน้ำฝนเพียงฝั่งเดียวได้ เช่น เป็นฝั่งที่มีระเบียง โดยต่อท่อจากรางน้ำฝนลงสู่พื้นด้านล่าง เพื่อลดภาระการระบายน้ำของ floor drain ที่ระเบียง

ในการติดตั้งรางน้ำฝนโดยส่วนมากมักจะต้องต่อท่อระบายน้ำฝนจากหลังคาอย่างน้อยฝั่งละ 1 จุด ซึ่งหากเป็นบ้านใหม่ที่ยังไม่ได้ต่อเติมอะไรก็สามารถสั่งขุดเพิ่มบ่อพักน้ำเพื่อนำน้ำฝนลงระบบระบายน้ำได้สะดวก รวมถึงเลือกจุดที่จะต่อท่อระบายน้ำฝนที่เหมาะสมได้

หากเป็นบ้านที่สร้างเอง คุณสามารถกำหนดจุดระบายน้ำฝนได้โดยสะดวก โดยสามารถปรึกษากับบริษัทรับสร้างบ้าน และร้านรับติดตั้งรางน้ำฝนถึงตำแหน่งที่เหมาะสมได้

แต่หากเป็นบ้านที่ต่อเติมแล้ว เช่น เทพื้นปูนก็อาจไม่สามารถขุดบ่อพักน้ำฝนเพิ่มได้ หรือต่อเติมห้องยื่นออกจากตัวบ้านแล้วอาจทำให้ไม่สามารถกำหนดจุดต่อท่อระบายน้ำฝนที่เหมาะสมได้

คุณสามารถขุดเพิ่มบ่อพักน้ำเพื่อรับน้ำฝนจากนั้นจึงเทปูนปูพื้นกระเบื้องรอบตัวบ้าน วิธีนี้จะช่วยให้สามารถต่อทำระบายน้ำฝนลงสู่บ่อพักน้ำได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องเจาะ สกัดพื้นใหม่

ดังนั้นบ้านใหม่ หรือบ้านเข้าอยู่แล้วก็ติดรางน้ำฝนได้ แต่ก่อนจะต่อเติมใดๆ เช่น ทำหลังคา หรือเทพื้นปูนควรปรึกษาช่างติดรางน้ำฝนเพื่อทำระบบรองรับน้ำฝนไว้ล่วงหน้า

ถ้าตัดสินใจว่าติดรางน้ำฝนแน่นนอน ควรติดรอบบ้านเลยหรือไม่?

การติดรางน้ำฝนสามารถเลือกได้ว่าจะติดรางน้ำฝนรอบบ้าน หรือติดเฉพาะจุดที่มีปัญหาก็ได้ เพราะหัวใจสำคัญของการติดรางน้ำฝน คือ แก้ปัญหาน้ำฝนที่ไหลจากหลังคาลงมาสร้างปัญหาแก่พื้นที่ด้านล่าง ซึ่งการติดรางน้ำฝนไว้รอบบ้าน จะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำฝนได้เบ็ดเสร็จสมบูรณ์ แม้อาจมีค่าใช้จ่ายสูงสักหน่อย แต่ก็แลกมาด้วยความสบายใจไปอีกหลายสิบปี

ตัวอย่างบ้านที่ติดรางน้ำฝนรอบบ้าน

แต่หากคุณพิจารณาแล้วว่าที่บ้านของคุณมีปัญหาเรื่องน้ำฝนเฉพาะบางส่วน ก็สามารถติดตั้งรางน้ำฝนเพื่อแก้ปัญหาของส่วนๆ นั้นได้ ส่วนในอนาคตหากมีแผนต่อเติม เช่น ทำห้องนอนต่อเติมจากบ้านชั้นล่าง ก่อนก่อสร้างก็สามารถติดรางน้ำฝนที่หลังคาบ้านชั้นบนของบริเวณนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนจากหลังคาบน พุ่งลงกระแทกหลังคาห้องส่วนต่อเติมใหม่ก็ได้

ลูกค้าท่านนี้ติดรางน้ำฝนเฉพาะส่วนหน้าบ้าน เพื่อรับน้ำฝนจากรางตะเข้ ป้องกันปัญหาน้ำฝนไหลพุ่งแรงช่วยให้เดินเข้าออกบ้านได้สะดวก

ควรเลือกรางน้ำฝนแบบไหน วัสดุอะไรดี?

รางน้ำฝนที่มีจำหน่ายในท้องตลาดมีอยู่หลายแบบ สามารถแบ่งได้เป็น 5 ประเภทวัสดุ ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป เราสรุปมาให้ดังนี้

• สังกะสี เป็นรางที่ราคาไม่แพง มีความทนทาน แต่เนื้อวัสดุอาจดูไม่สวยงาม และมักมีปัญหารั่วซึมบริเวณรอยต่อ

• สเตนเลส มีความแข็งแรงทนทาน ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสนิม แต่อาจอาจดูไม่เข้ากับบ้านบางสไตล์ และอาจมีปัญหารั่วซึมที่รอยเชื่อมต่อ

• รางเหล็กเคลือบอลูซิงค์ ตัววัสดุเคลือบกันสนิม มีความสวยงามสามารถนำไปทำสีที่เข้ากับสไตล์บ้านได้ อายุการใช้งานยาวนานหลายสิบปี แต่มีราคาสูง

• ไวนิล เป็นรางน้ำฝนที่นิยมใช้อย่างมาก ราคาไม่สูง อายุการใช้งานหลายสิบปี รางแต่ละเส้นมีความยาวไม่มาก เพราะเป็นสินค้าสำเร็จรูป และมักมีปัญหารั่วซึมบริเวณรอยต่อ

• อะลูมิเนียม วัสดุไม่เป็นสนิม อายุการใช้งานยาวนาน มีหลายสีให้เลือกได้เข้ากับสไตล์ของบ้าน ดีไซน์ของรางเช้ากับบ้านได้หลากหลายสไตล์ แต่มีราคาค่อนข้างสูง

รางน้ำฝนอะลูมิเนียมของ RANE GUTTER

สำหรับรางน้ำฝนอะลูมิเนียมซึ่งเป็นสินค้าที่ RANE GUTTER จำหน่าย และรับติดตั้งด้วย จะเป็นแผ่นอะลูมิเนียมเคลือบสีชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติเนื้อสีติดทนนาน ไม่ลอก สามารถใช้งานได้ยาวนานได้มาก 20 ปี นำเข้ามาจากสหรัฐอเมริกา โดยจะนำมาเป็นม้วน (Coil) และจะทำการรีดขึ้นรูปรางน้ำฝนทีี่หน้างาน

ดีไซน์ของรางกลมกลืนกับชายคาบ้าน เหมือนตกแต่งบัวเชิงชายเพิ่มความสวยงาม

รางน้ำฝน และอุปกรณ์ของ RANE GUTTER ผลิตจากอะลูมิเนียมทั้งหมด

รางน้ำฝนสามารถรีดได้ยาวเป็นเส้นเดียว รีดได้ยาวกว่า 27 เมตร

ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการรีดขึ้นรูปรางน้ำฝนที่หน้างานก็คือ จะได้รางน้ำฝนที่ผลิตยาวเป็นเส้นเดียวโดยไม่มีรอยต่อ ช่วยลดปัญหาน้ำรั่วซึมบริเวณรอยต่อได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้การยึดรางน้ำฝนเข้ากับเชิงชายจะใช้ตะขอเแบบซ่อน ช่วยให้รางน้ำฝนดูกลมกลืนไปกับตัวบ้านเหมือนตกแต่งบัวที่เชิงชาย

สนใจสอบถาม - ต้องการติดรางน้ำฝน

Tel : 092 249 9176

Line : https://lin.ee/6Me7uS7 

.

RANE โซ่น้ำฝน รางน้ำฝนอลูมิเนียมไร้รอยต่อ  .

เลือกโซ่น้ำฝน www.ranegutter.com/rainchain 

ติดรางน้ำฝน www.ranegutter.com/gutter 

Facebook : www.facebook.com/rainchainthailand 

Inbox : https://m.me//rainchainthailand/ 

Lazada Shop : https://www.lazada.co.th/shop/rane/