โซ่น้ำฝน อุปกรณ์ระบายน้ำฝนของชาวญี่ปุ่นที่มีอายุหลายร้อยปี

30 ก.ย. 2565ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 21 มิ.ย. 2566

ปัจจุบันโซ่น้ำฝนเป็นที่รู้จักแพร่หลายมากขึ้น เป็นทางเลือกสำหรับระบายน้ำจากรางน้ำฝนสำหรับบ้านที่ไม่ต้องการใช้ท่อน้ำฝน หรือใช้ทดแทนบางส่วนเพื่อความสวยงาม

โซ่น้ำฝนในศาลเจ้าญี่ปุ่น — เครดิตภาพ - ©阿部純也 – stock.adobe.com

โซ่น้ำฝนเวอร์ชั่นแรก ๆ เป็นเชือกป่าน

โซ่น้ำฝน คาดว่ามีต้นกำเนิดที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อราวปี ค.ศ. 1558 โดยมีบันทึกว่ามีการใช้โซ่น้ำฝนครั้งแรกที่โรงน้ำชาขนาดเล็กซึ่งในช่วงเวลานั้นผู้ชงชา (Tea Master) จะนิยมบรรยากาศความเรียบง่ายเป็นธรรมชาติ มากกว่าที่จะเป็นพิธีกรรมที่ดูหรูหราสง่างามแบบยุคหลัง

ซึ่งในยุคนั้นโซ่น้ำฝนไม่ได้ผลิตจากโลหะ แต่ใช้เชือกป่านผูกเข้ากับกิ่งไม้ หรือก้านไม้ไผ่เพื่อเหนี่ยวนำสายน้ำจากหลังคาให้ไหลลงตามเส้นเชือกลงสู่พื้นด้านล่าง โดยโซ่น้ำฝนเวอร์ชั่นดั้งเดิมนี้ยังมีใช้เป็นส่วนจัดแสดงอยู่หน้าทางเข้าบ้านโบราณ Mitsui Hachirōemon ณ พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมกลางแจ้งเอโดะ-โตเกียว

พัฒนาสู่โซ่น้ำฝนโลหะหลายชนิด

เมื่อยุคสมัยผ่านไปโซ่น้ำฝนก็ถูกพัฒนาจากเชือกป่านถูกกับไม้ไผ่มาเป็นวัสดุโลหะ เช่น เหล็ก อลูมิเนียม ทองแดง ดีไซน์ของโซ่ก็ถูกพัฒนาให้เข้ากับบ้านสไตล์ตะวันตกมากยิ่งขึ้น รวมถึงยังมีให้เลือกใช้งานหลายแบบทั้งที่เป็นโซ่ เป็นห่วงวงแหวนร้อยกัน และที่เป็นถ้วยน้ำฝนทรงต่าง ๆ เช่น ดอกไม้ ทรงเหลี่ยม

แม้ในช่วงหนึ่งการใช้งานโซ่น้ำฝนก็ดูลดน้อยลงไป เนื่องจากบ้านสไตล์ตะวันตกนั้นนิยมต่อท่อน้ำฝนลงจากรางน้ำฝนมากกว่าการแขวนโซ่น้ำฝน

แต่ในช่วงที่ผ่านมาโซ่น้ำฝนก็ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นโดยสามารถพบเห็นได้ตามร้านค้า สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมถึงในที่อยู่อาศัยก็พบเห็นได้มากยิ่งขึ้น

ใช้แทนท่อน้ำฝน และเป็นของตกแต่งบ้าน

บ้านยุคใหม่สไตล์โมเดิร์นที่โชว์ดีไซน์เรียบง่าย มักเลือกใช้โซ่น้ำฝนเพื่อนำน้ำฝนจากหลังคาลงสู่พื้นที่ด้านล่าง แม้ว่าท่อน้ำฝนจะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อาจดูไม่เข้ากับดีไซน์ของบ้าน

บ้านโมเดิร์นใช้โซ่น้ำฝนระบายน้ำจากหลังคา — เครดิตภาพ : credit: https://design-milk.com/

สำหรับโซ่น้ำฝนที่มีลักษณะเป็นเหมือนของตกแต่งบ้าน และมีแบบให้เลือกหลายดีไซน์จึงสามารถเข้ากับบริบทโดยรอบได้ดีกว่าท่อน้ำฝน ทำให้เจ้าของบ้าน รวมถึงนักออกแบบ นักจัดสวนนิยมเลือกใช้โซ่น้ำฝนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในงานดีไซน์ที่นอกจากจะเป็นเครื่องประดับสร้างความสวยงามให้แก่บ้าน และสวนแล้วยังสามารถใช้งานได้จริงอีกด้วย